
เพลง แร๊ฟ วัฒนธรรมดนตรีที่ต่อยอดมาจาก hiphop
เพลงแร็พถือว่าเป็นอีกหนึ่งแขนงของแนวดนตรีหรือวัฒนธรรม hiphop ที่ต่อยอดสร้างดนตรีและความบันเทิงในแนวใหม่ แต่ใช้รากฐานของดนตรีในแบบฮิปฮอป สองแนวดนตรีถึงถูกเชื่อมโยงเข้าด้วยกันมาตั้งแต่ยุคแรกของเพลงฮิปฮอปเลยก็ว่าได้
หากให้คำจำกัดความของเพลงแร็พ ที่หลายคนสัมผัสได้ก็คือเพลงที่มีการร้องที่ค่อนข้างเร็วกว่าเพลงใน
แบบ hiphop ลักษณะจะเป็นเหมือนกับการพูดแบบรัวเร็ว ซึ่งมีรากฐานมาจากMC หรือพิธีกรในงานปาร์ตี้ของดนตรี ฮิปฮอป ที่จะพูดคุยสร้างความสนุกกับผู้คนในงาน และพัฒนามาสู่รูปแบบของการทำดนตรีในแนวใหม่ และมักจะเป็นในลักษณะของการด้นสด หรือการคิดเนื้อร้องคำร้องกันแบบสดๆ และกลายเป็นเอกลักษณ์ของดนตรีแนวนี้ รวมทั้งมีการผลิตเพลงในแนวนี้เหมือนอย่างดนตรีแนวอื่นๆจังหวะและทำนองก็จะผสมผสานดนตรีในหลากหลายรูปแบบเช่นเดียวกับฮิปฮอปและกลายเป็นความนิยมตั้งแต่ช่วงยุค 1990 จนถึงปัจจุบัน
คงต้องบอกว่าอิทธิพลของเพลงแร็พค่อนข้างที่จะขยายตัวได้ไวกว่าดนตรีแนว hiphop โดยเฉพาะในฝั่งตะวันตกอย่างอเมริกาที่มีศิลปินแร็พค่อนข้างเยอะ แต่ในยุคแรกจะเป็นกลุ่มผิวสีแต่ก็มีศิลปินแร๊พผิวขาวด้วยเช่นกัน เพราะดนตรีไม่แบ่งชนชาติ ทำให้เพลงแนวนี้ได้รับความสนใจมากขึ้น และในแถบเอเชียก็รับวัฒนธรรมเพลงแร็พในหลายประเทศรวมทั้งประเทศไทยด้วย จึงบอกได้ว่าวัฒนธรรม hiphop กลายเป็นรากฐานแนวดนตรีที่ต่อยอดไปยังดนตรีแนวอื่นๆ มีการฟิวชั่นกันในหลายลักษณะและเพลงแร็พก็สร้างวัฒนธรรมในแบบของตัวเองขึ้นมาต่อยอดจากความเป็นฮิปฮอปในแบบดั้งเดิม
ปัจจุบันมีศิลปินแร๊พมากมาย รวมทั้งในหลาย ๆ ประเทศยอมรับดนตรีแนวนี้มากขึ้น มีจัดการแข่งขันประกวดนักร้องแนวนี้จนทำให้คนส่วนใหญ่แทบจะลืมเพลง hiphop ในแบบดั้งเดิมและคิดว่า แร๊พ คือจุดกำเนิดของ
ฮิปฮอปหรือบางคนคิดว่าสองแนวดนตรีไม่ต่างกันตรงไหนเลยก็มี แต่หากให้อธิบายถึงความต่างคงต้องว่ากันยาว ๆ เพราะหากเจาะลึกกันจริง ๆ วันเดียวคงเล่าไม่จบแน่นอน แต่อย่างไรก็ตามทั้งเพลงฮิปฮอปและเพลงแร็พ ต่างก็เป็นแนวดนตรีที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมีความน่าสนใจพัฒนารากฐานมาจากรูปแบบดั้งเดิมจากดนตรีท้องถิ่นของวัฒนธรรมแอฟริกัน และพัฒนาต่อยอดจนมาเป็นเพลงทั้ง 2 แบบอย่างที่เราได้ฟังกันในปัจจุบัน
นอกจากเรื่องของแนวดนตรีแล้วความนิยมในตัวศิลปิน ก็มีส่วนที่สร้างกระแสให้กับดนตรีทั้ง 2 แนวและยังต่อยอดสูงงานบันเทิงในแขนงต่างๆหรือกระจายวัฒนธรรมไปในวงกว้างมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นวงการแฟชั่นวงการภาพยนตร์