
เขียนไขและวานิช ศิลปินผู้ขับกล่อมโลก
ศิลปวัฒนธรรม ของบ้านเรา นับว่าเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่มีประเทศไหนบนโลกนี้สามารถลอกเลียนแบบได้ ซึ่งจุดที่ทำให้ความโดดเด่นเหล่านี้เกิดขึ้นได้นั้น ก็มาจากความหลากหลายในวิถีชีวิตความเป็นอยู่ในแต่ละภูมิภาค ที่สังคมเปิดกว้างให้ความแตกต่างเหล่านี้ได้แสดงออกถึงจุดเด่นในแต่ละแบบที่แต่ละท้องถิ่นภิใจนำเสนอ ทำให้ศิลปวัฒนธรรมต่างๆของแต่ละภูมิภาคจึงออกมาสะท้อนสภาพชีวิตผู้คนเหล่านั้นได้อย่างน่าปะหลาดใจ
สำหรับ ภาคเหนือ นับเป็นหนึ่งในภูมิภาคที่มีศิลปวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ได้รับอิทธิพลจากวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนได้อย่างเห็นได้ชัด พื้นที่ของภาคเหนือที่เต็มไปด้วยธรรมชาติ ป่าเขา ดอยสูง ปกคลุมด้วยอากาศที่เย็นสบาย ทำให้ศิลปะออกมาสงบ ราบรื่น เย็นใจ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดอย่างบทเพลง สำหรับ ศิลปินเพลงพื้นเมืองของภาคเหนือ มักจะถ่ายทอดบทเพลงที่ฟังแล้วเหมือนติดในพวังขับกล่อมใจให้ลอยไปตามธรรมชาติ
โจ้–สาโรจน์ ยอดยิ่ง ศิลปินในนาม เขียนไขและวาณิช หนุ่มที่ได้รับอิทธิพลจากวิถีชีวิตแบบนี้มาทั้งชีวิต ทำให้เขาเมื่อก้าวขึ้นมาเป็นศิลปินเอง ก็ถ่ายทอดบทเพลงเพื่อขับกล่อมผู้คนได้เช่นเดียวกัน ผลงานของ เขียนไขและวาณิช ส่วนใหญ่จะเป็นดนตรีโฟล์คฟังสบายๆ เครื่องดนตรีน้อยชิ้น เพราะ เขียนไขและวาณิชใช้นักดนตรีเพียงสองคนเท่านั้นคือตัวโจ้เองและเพื่อนสนิทของเขาอย่าง เล–ประชา หลุยจำวัน
ซึ่งเพลงแรกที่นำมาขับกล่อมโลกใบนี้อย่าง “ แก้มน้องนางนั้นแดงกว่าใคร” นับว่าเป็นเพลงที่หาได้ยากมาในยุคนี้ ถ้าแกะบรรยากาศของเพลงได้ ขณะฟังเหมือนเรากำลังนั่งพักอยู่บนเขาแห่งไหนสักลูกหนึ่งในบรรยากาศที่เย็นสบาย และพบกับสาวชาวเมืองที่สวยงามเป็นธรรมชาติแบบที่หาที่ไหนไม่ได้ถ้าไม่มาอยู่ตรงนี้
ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องวิเศษมาก ที่เพลงนึงเพลงสามารถสร้างจินตนาการจากความเพลิดเพลินในเสียงดนตรีอันหอมหวานและภาษาคำเมืองที่ใช้ได้อย่างมีเสน่ห์และเข้าใจง่าย จนทำให้เพลงนี้ของ เขียนไขและวาณิช กลายเป็นที่นิยมเพียงในชั่วข้ามคืน
แต่จริงๆแล้ว เพลง “ แก้มน้องนางนั้นแดงกว่าใคร” ไม่ใช่ผลงานแรกที่ตัว เขียนไขและวาณิช สร้างสรรค์ขึ้นมาบนเส้นทางของดนตรี เราได้เขียนเพลงสะสมมาตลอดระยะเวลากว่า 8 ปี มีเพลงในคลังมากกว่า 40 เพลง ซึ่งหลังจาก“ แก้มน้องนางนั้นแดงกว่าใคร” ประสบความสำเร็จเขาก็ทยอยปล่อยผลงานต่างๆออกมาเพื่อขับกล่อมผู้คนอีกมากมาย
ซึ่งทุกเพลงของเขาได้กลิ่นไอเดียวกันหมด นั่นคือความเศร้าและโหยหา ที่เกิดจากการพลัดพราก แต่ความแตกต่างของ เขียนไขและวาณิช คือการถ่ายทอดบทเพลงเศร้าให้ออกมาเรียบง่ายและเบาสบายที่สุด แต่มันกลับทำให้ผู้ฟังดิ่งลงในความรู้สึกเหล่านั้นได้อย่างไม่รู้ตัว สะท้อนให้เห็นว่าดนตรีสามารถขับกล่อมโลกได้ในทุกความรู้สึก ไม่จำเป็นต้องปรุงแต่งอะไรมากมาย นับว่าเป็นการสื่อสารของ เขียนไขและวาณิช ที่เกิดจากความนิ่งสงบของตัวเขาออกมาได้อย่างลึกซึ้งกินใจ และตรงไปตรงมา ในแบบที่ธรรมชาติสร้างมาอย่างแท้จริง
Credit : Chordtab
Credit : Music Thailand