
มาดูการพัฒนาของ เครื่องเล่นเพลง กัน
เครื่องเล่นเพลง ได้ถูกคิดค้นมาก่อนยุค90 ซึ่งได้ถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จนกลายมาเป็น แกรโมโฟน โดยสามารถเล่นได้กับแผ่นเสียงที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ แถมยังหนักมากด้วย สำหรับตัวเครื่องเล่นนั้น มีร่องเล็กๆเยอะมาก มีปุ่มขรุขระเต็มไปหมด เพราะต้องให้เข็มจากตัวเครื่องเล่นวิ่งผ่านไปสัมผัสกับปุ่มในร่อง ซึ่งเสียงที่ออกมา มันไม่ค่อยใส สักเท่าไรนัก จะเป็นเสียงทุ่มต่ำ และเล่นได้แค่สปีด78 RPM และถ้าเวลาที่ไขลานหมด เพลงก็จะยืดลงด้วย
โดยต่อมา เครื่องเล่นเพลง ที่เป็นจุดเริ่มต้นของเครื่องเล่นในยุคนี้ ก็ได้ถูกผลิตขึ้นมา และมีการผลิตแผ่นเสียงจากพลาสติกไวนิลด้วย จะดีกว่าแผ่นเสียงรุ่นก่อน แต่มีขนาดใหญ่กว่า เล่นด้วยสปีดทั้งหมด33 1/3RPM และหลายปีต่อมา แผ่นเสียงLP ก็ขายดิบขายดี จนกลายเป็นธุรกิจดังไปเลย มาดูการพัฒนาของ เครื่องเล่นเพลง กัน
ซึ่งเครื่องเล่นเพลง ที่ฮิตฮอตในปี1957 มีขนาดพอดี แผ่นที่ใช้สำหรับเล่น เป็นแผ่นLP ส่วนต่อมา ก็มีเครื่องเล่นที่รองรับระบบสเตอริโอ โดยเล่นเล่นได้กับ เครื่องสเตอริโอและโมโน และสำหรับปี1970 มีการผลิตระบบเสียง4ทิศทาง แต่ไม่รุ่งเรือง เพราะต้องมีการเพิ่มลำโพงเข้าไป จากตอนแรกที่ใช้แค่2ตัว
ช่วงปี1983 ซีดีเริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้น แต่ถึงอย่างไรแล้วนั้น ก็ยังมีผู้คนที่ชื่นชอบในการฟังแผ่นเสียงเช่นเดิม ส่วนมากจะเป็นคนที่อายุเยอะขึ้นแล้ว ซึ่งยังรักในการฟังเพลงแบบเดิมอยู่ และยังไม่ชินกับ การฟังเพลงแบบใหม่
แต่ก็มีช่วงจุดที่แย่ของ แผ่นเสียง เช่นกัน เพราะตอนนั้นซีดีออกมาขายเกลื่อน และพอก้าวเข้าสู่ยุค90 ก็ ไม่มีใครเล่นแผ่นเสียงแล้ว เพราะว่าผู้คนจะเลือกมาฟังเพลงจากแผ่นซีดีกันหมด ซึ่งทางด้านของต่างประเทศแผ่นเสียง ยังเป็นที่นิยมอยู่ เพราะยังเห็นถึงความสำคัญของแผ่นเสียง โดยถ้าเกิดเป็นศิลปินดัง ราคาก็เกือบหลักพันเลยด้วยซ้ำ เลยทำให้เป็นเรื่องปกติที่แผ่นเสียงของศิลปินในยุคนั้น จะไม่ค่อยมีวางขายตลามตลาดสักเท่าไรนัก
และพอเข้าสู่ช่วงปลายปี90 แผ่นเสียงเริ่มบางตาไปเรียบร้อยแล้ว โดยก็ยังมีบางศิลปินที่ยังมีแผ่นเสียงอยู่แต่ว่าก็ยังผลิตน้อยอยู่เหมือนเดิม แถมแผ่นซีดี ก็ถูกแทนที่ด้วย MP3 เนื่องจากซีดีนำไปบีบอัดไฟล์ได้ เพื่อฟังกับอุปกรณ์อื่น ราคาถูกและพกพาง่าย และเหมือนแผ่นซีดี จะถูกแผ่นเสียงเอาคืนบ้าง เพราะก็อยู่ในจุดตกต่ำของ แผ่นซีดีเช่นกัน ส่วนคนที่ยังรักการฟังแผ่นเสียงอยู่ ก็ไม่คิดอะไรมาก เพราะถ้าเกิดศิลปินที่ชอบไม่ออกแผ่นเสียงเขาก็ยังหาซื้อแผ่นซีดีได้ แต่ถ้ามีแผ่นเสียงเขาก็ต้องเลือกแผ่นเสียงอยู่แล้ว